งานนี้ต้องบอกว่ามูริญโญ่หลบไปเลย สำหรับการออกมากล่าวแสดงความเห็นต่ออนาคตของกุนซือรายใหม่ของทีมปีศาจแดงจากไบรอัน ร็อบสัน อดีตตำนานกองกลางคนเก่งของปีศาจแดงเพราะเจ้าตัวชี้ชัดเลยว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่ทางไรอัน กิ๊กส์

อดีตตำนานปีกพ่อมดของทีมซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่เป็นมือขวาของหลุยส์ ฟาน กัลจะได้ก้าวขึ้นทำหน้าที่กุนซือใหญ่เต็มตัวของทีมปีศาจแดง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่าในช่วงที่ผ่านมาไรอัน กิ๊กส์ฝึกปรือฝีมือการทำทีมของตนเอง ด้วยการรับบทบาทเป็นผู้ช่วยกุนซือให้กับหลุยส์ ฟาน กัล

ทั้งยังเคยรับหน้าที่คุมทัพแบบขัดตาทัพต่อจากเดวิด มอยส์ที่โดนบอร์ดปีศาจแดงเด้งลงกลางอากาศอีกด้วยทำให้มีการคาดการณ์กันไว้ว่าในอนาคตอันใกล้ซึ่งอาจหมายถึงหลังจากที่หลุยส์ ฟาน กัลหมดสัญญาสามปีกับปีศาจแดงและวางมือจากอาชีพกุนซือตามที่ประกาศเอาไว้กิ๊กส์จะได้ขึ้นมารับหน้าที่เป็นกุนซือคนใหม่ของปีศาจแดงอย่างเต็มตัว

อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมาหลังจากปีศาจแดงกับหลุยส์ ฟาน กัลต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและถูกวิพากษ์วิจารณ์ผลงานในด้านลบมากมายกลับกลายเป็นโจเซ่ มูริญโญ่ อดีตกุนซือสิงห์บลูที่โผล่เข้ามาเป็นเต็งจ๋าที่จะมารับงานต่อจากหลุยส์ ฟาน กัล

กรณีที่บอร์ดปีศาจแดงสั่งเด้งนายใหญ่ชาวดัตซ์จริงทำให้ไบรอัน ร็อบสันซึ่งไม่เห็นด้วยกับกระแสเลือกมูริญโญ่มาเป็นนายใหญ่ปีศาจแดงคนต่อไปออกมากล่าวแสดงความเห็นว่า

“ผมคิดว่าฟาน กัลจะทำงานให้ปีศาจแดงเต็มที่ก็สามปีตามกำหนดสัญญา และไรอัน กิ๊กส์คือคนที่ช่วยเขาทำงานไรอันเป็นตำนานนักเตะชั้นยอดของที่นี่แล้วที่ผ่านมาบอร์ดก็กำลังดูอยู่ว่าเขาเหมาะสมแล้วหรือยังที่จะขึ้นมาทำหน้าที่กุนซือ แต่ผมว่ามันถึงเวลาแล้วล่ะ ไรอัน กิ๊กส์เป็นปีศาจแดงอย่างแท้จริงเขาชื่นชอบการเล่นฟุตบอลในแบบฉบับของปีศาจแดง”

“ฉะนั้นเขาจะพาปีศาจแดงกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมได้แน่ อีกทั้งที่ผ่านมาเขาก็สั่งสมประการณ์มามากพอแล้วเขาอบรมการเป็นโค้ชผ่านทุกระดับแล้ว เขาเคยได้นั่งกุนซือขัดตาทัพแล้วด้วย”

ปลดล็อค 8 ทีม! ผลบอล ‘เรือใบ’ เสมอ ‘เคียฟ’ รวมสองเกมลิ่ว 8 ทีม UCL

       ต้องบอกว่าปลดล็อครอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ มหาเศรษฐีเงินถังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

หลังก่อนหน้านี้หลายซีซั่นต้องหยุดตัวเองอยู่แค่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อผลบอลล่าสุดในเกมที่สองของรอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาสามารถเปิดรังเอติฮัตสเตเดี้ยมยันเสมอกับดินาโม เคียฟ ทีมแกร่งจากยูเครนไปได้ 0-0 ทำให้รวมผลบอลสองเกมเข้ารอบไปจากผลชนะในเกมแรก 3-1

       สำหรับรูปเกมโดยรวมที่เกิดขึ้นเป็นทีมเยือนเคียฟที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยโดยสามารถครองเกมได้มากกว่าและสร้างโอกาสจบสกอร์แบบจะแจ้งได้มากกว่าแต่น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้ายนั้นไม่คมพอ โดยพวกเขาสร้างโอกาสยิงประตูเข้ากรอบได้มากถึง 5 ครั้ง และยิงไม่เข้ากรอบอีก 2 ครั้ง ขณะที่ทีมเจ้าบ้านยิงเข้ากรอบเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

ด้านผลการแข่งขันของอีกคู่ที่ลงคิกออฟในวันและเวลาเดียวกันตราหมี แอตฯมาดริดเปิดรังบิเซนเต้ กัลเดร่อนยื้อเหนื่อยกับพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่นไปจนถึงการดวลจุดโทษก่อนจะอาศัยความเฉียบคมในการดวลเป้าเป็นตั๋วทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

ทั้งนี้ผลบอลล่าสุดในเกมทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0 เช่นเดียวกับเกมแรกที่เล่นกันในบ้านของพีเอสวีฯ โดยรูปเกมที่เกิดขึ้นเป็นเจ้าบ้านตราหมีที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน ครองบอลทำเกมใส่ตลอดสร้างโอกาสยิงประตูรวมถึง 26 ครั้ง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย

       แต่ทีมเยือนก็มีหือมีอือเหมือนกันใช่จะตั้งรับท่าเดียวโดยสามารถทำเกมสวนได้เป็นพักๆสร้างโอกาสจบสกอร์รวมได้ 13 ครั้ง การดวลจุดโทษห้าคนแรกของทั้งสองทีมยิงเข้าทั้งหมด ทำให้ต้องยื้อไปนานกว่านั้นจนถึงคนที่ 8 และเป็นลูเซียโน่ของทีมเยือนที่พบกับค่ำคืนอันโชคร้ายเมื่อไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้เฉกเช่นเพื่อนร่วมทีมรายอื่นทำให้เจ้าบ้านแอตฯมาดริดเอาชนะการดวลจุดโทษไปด้วยผลสกอร์ 8-7